อาการแบตเสื่อมเกิดจากอะไร ดูยังไงได้บ้าง พร้อมแนะนำวิธีแก้ไข

13/07/2025
หมวดหมู่ : Article

ปัญหาแบตเสื่อม ดูยังไง รวมสาเหตุพร้อมวิธีแก้ไข

ในยุคที่โทรศัพท์ได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันของเราหลาย ๆ อย่าง ถ้าหากโทรศัพท์ที่ใช้อยู่ทุก ๆ วันเริ่มใช้งานได้น้อยลงเรื่อย ๆ ใช้งานไปสักพักแบตก็หมดอีกแล้ว นี่อาจเป็นสัญญาณของอาการแบตเสื่อมที่ทำให้โทรศัพท์ของคุณใช้งานได้น้อยลง 

ในบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจกับลักษณะอาการและสาเหตุที่ทำให้แบตเสื่อม พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขและแนวทางป้องกันปัญหาอาการแบตเสื่อมที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต
 

แบตเสื่อมมีอาการอย่างไรบ้าง

โทรศัพท์ที่แบตเสื่อมจะมีอาการหลัก ๆ ดังเช่น แบตเตอรี่หมดเร็ว ระยะเวลาในการใช้งานสั้นลง ใช้งานอยู่ดี ๆ โทรศัพท์ปิดเองกะทันหัน หรือเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่กระโดดไปมาอย่างไม่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังอาจสังเกตเห็นได้ว่าเครื่องมีอาการร้อนผิดปกติระหว่างการใช้งานหรือในขณะชาร์จ และในบางกรณีแบตเตอรี่อาจมีรูปร่างที่บวมหรือผิดปกติจนดันหน้าจอออกมา
 

6 สาเหตุที่ทำให้โทรศัพท์แบตเสื่อม

อาการแบตเสื่อม

หลังจากที่ได้ทราบอาการของโทรศัพท์แบตเสื่อมกันไปแล้ว ถัดไปเราจะมาดูกันว่าสาเหตุที่แบตเสื่อมเกิดจากอะไรได้บ้าง เพื่อจะได้ทำความเข้าใจสาเหตุที่แท้จริง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานได้อย่างถูกวิธี
 

1. การชาร์จแบตเตอรี่ค้างคืน 

การชาร์จโทรศัพท์ทิ้งไว้ข้ามคืนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น เพราะเมื่อแบตเตอรี่เต็ม 100% แล้วแต่ยังคงชาร์จต่อ จะทำให้เกิดความร้อนสะสมและวงจรการชาร์จทำงานต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าโทรศัพท์รุ่นใหม่ ๆ จะมีระบบตัดไฟอัตโนมัติ แต่การชาร์จค้างคืนบ่อย ๆ ก็ยังส่งผลเสียต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่อยู่ดี
 

2. การใช้งานขณะชาร์จไฟ 

การเล่นโทรศัพท์ในระหว่างชาร์จแบตเตอรี่จะทำให้เกิดความร้อนสูงผิดปกติ โดยเฉพาะการเล่นเกมหรือแอปที่ใช้ทรัพยากรเครื่องสูง ซึ่งความร้อนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประสิทธิภาพการเก็บประจุของแบตเตอรี่ลิเธียมลดลง และส่งผลให้อายุการใช้งานแบตเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว
 

3. การใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน

การใช้สายชาร์จหรือหัวชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ใช่ของแท้จากผู้ผลิต เป็นสาเหตุสำคัญของที่ทำให้โทรศัพท์แบตเสื่อมโดยไม่รู้ตัว เพราะอุปกรณ์เหล่านี้อาจไม่มีระบบควบคุมกระแสไฟฟ้าที่เหมาะสม ทำให้การชาร์จไม่สม่ำเสมอ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ และลดอายุการใช้งานลงอย่างเห็นได้ชัด
 

4. การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงบ่อย ๆ

การใช้งานโทรศัพท์จนแบตเตอรี่หมดเกลี้ยงแล้วปิดเครื่องเองบ่อย ๆ จะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอย่างมาก เพราะแบตเตอรี่ประเภทนี้ไม่ควรถูกปล่อยให้พลังงานต่ำกว่า 20% เป็นประจำ ซึ่งจะทำให้เซลล์แบตเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และมีความจุโดยรวมลดลงอย่างถาวร
 

5. การเก็บโทรศัพท์ในที่ที่ร้อนเกินไป

อุณหภูมิสูงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น การวางโทรศัพท์ไว้กลางแดด ในรถที่จอดตากแดด หรือใกล้แหล่งความร้อน เช่น เตาอบหรือเครื่องทำความร้อน จะทำให้แบตเตอรี่ได้รับความเสียหายและเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แบตเสื่อม
 

6. การใช้งานที่กินแบตเตอรี่สูงเป็นประจำ

การใช้งานฟีเจอร์หรือแอปพลิเคชันที่ต้องการพลังงานสูงอย่างต่อเนื่อง เช่น GPS, เปิดความสว่างหน้าจอสูงสุด, การเล่นเกม หรือการใช้กล้องถ่ายวิดีโอเป็นเวลานาน จะทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักและเกิดความร้อนสะสม ส่งผลให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น แม้จะเป็นการใช้งานปกติแต่ก็ควรมีการพักเครื่องด้วย
 

วิธีแก้ไขอาการแบตเสื่อม

เมื่อเราเข้าใจสาเหตุของปัญหาแบตเสื่อมแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าถ้าแบตเสื่อมแก้ยังไงดี มีวิธีแก้แบตเสื่อมอย่างไรบ้าง หรือถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแบตโทรศัพท์หรือยัง เรามาดูวิธีแก้ไขที่สามารถทำได้กันดีกว่า

  • ใช้โหมดประหยัดพลังงาน ช่วยลดการทำงานของแอปพลิเคชันในเบื้องหลัง ลดความสว่างหน้าจอ และจำกัดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น ทำให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้นในแต่ละรอบการชาร์จ
  • ปรับพฤติกรรมการชาร์จ โดยชาร์จแบตเตอรี่เมื่ออยู่ที่ระดับ 20-30% และหยุดชาร์จเมื่อถึง 80-90% แทนที่จะรอให้แบตเตอรี่หมดสนิทหรือชาร์จจนเต็ม 100% ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ปิดฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น เช่น Bluetooth, Wi-Fi, GPS และการซิงค์ข้อมูลอัตโนมัติ เมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น
  • ปรับความสว่างหน้าจอ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากหน้าจอคืออุปกรณ์ที่ใช้พลังงานมากที่สุดในโทรศัพท์ การลดความสว่างจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้มาก
  • เปลี่ยนแบตโทรศัพท์ ในกรณีที่แบตเสื่อมมากและวิธีแก้ไขเบื้องต้นไม่สามารถช่วยได้แล้ว ควรนำไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ศูนย์บริการที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้อะไหล่แท้และมั่นใจในความปลอดภัย
     

วิธีป้องกันอาการแบตเสื่อมอย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีแก้แบตเสื่อม

การป้องกันอาการแบตโทรศัพท์เสื่อมสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการชาร์จแบตในช่วง 20-80% หลีกเลี่ยงการใช้งานขณะชาร์จซึ่งทำให้เกิดความร้อนสูง ไม่ควรชาร์จค้างคืนหรือปล่อยให้แบตหมดเกลี้ยง นอกจากนี้ควรใช้อุปกรณ์ชาร์จของแท้ หลีกเลี่ยงการวางโทรศัพท์ในที่ร้อนจัด เช่น กลางแดด หรือในรถที่จอดกลางแจ้ง และปิดแอปหรือฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็นเพื่อลดการใช้พลังงาน จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 

ถ้าโทรศัพท์แบตเสื่อมสามารถเปลี่ยนเองได้ไหม

หากโทรศัพท์แบตเสื่อมคุณสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้ แต่จะมีความเสี่ยงและข้อควรระวัง โดยโทรศัพท์บางรุ่นออกแบบมาให้เปลี่ยนแบตได้ง่าย แต่รุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรี่แบบปิดตาย ที่ต้องอาศัยอุปกรณ์พิเศษและทักษะเฉพาะทาง หากไม่มีประสบการณ์อาจทำให้อุปกรณ์เสียหาย สูญเสียคุณสมบัติกันน้ำ หรือเกิดอันตรายจากแบตเตอรี่ลิเธียมได้ ทางที่ดีควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญหรือศูนย์บริการเป็นผู้ดำเนินการจะปลอดภัยกว่า
 

โทรศัพท์แบตเสื่อม มีอาการแบตบวม อันตรายไหม

โทรศัพท์ที่มีอาการแบตเสื่อมจนแบตบวมถือเป็นอันตรายอย่างมาก และต้องได้รับการซ่อมในทันที เพราะแบตเตอรี่ที่บวมมีความเสี่ยงที่จะรั่วไหล จนเกิดการระเบิดหรือลุกไหม้ได้ โดยสาเหตุมักเกิดจากปฏิกิริยาเคมีผิดปกติภายในเซลล์แบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ ทำให้เกิดก๊าซสะสมจนแรงดันเพิ่มขึ้น ควรหยุดใช้งานโทรศัพท์ทันที ไม่ควรชาร์จหรือใช้งานต่อ และนำไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ศูนย์บริการโดยเร็วที่สุด
 

โทรศัพท์แบตเสื่อม ปัญหาใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม

ปัญหาแบตเสื่อมเป็นสิ่งที่คนใช้โทรศัพท์ทุกคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นอาการชาร์จไม่เข้า แบตหมดเร็ว หรือเปอร์เซ็นต์แบตกระโดด การป้องกันและแก้ไขอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแบตหรืออัปเกรดเครื่องใหม่ ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่อีกต่อไป เพราะไม่ว่าจะผ่อนไอโฟนหรือ Samsung รุ่นไหนดี คุณก็สามารถผ่อนโทรศัพท์รุ่นใหม่ได้แบบไม่ต้องใช้บัตรเครดิตกับ UFUND พร้อมสิทธิพิเศษมากมายที่รอคุณอยู่
 

  • ฟรีดาวน์*
  • ดอกเบี้ยต่ำ เริ่มต้นเพียง 0.99%
  • ผ่อนสบาย ๆ นานสูงสุด 48 เดือน
     

*เงื่อนไขตามที่บริษัทกำหนด

สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line : @ufund 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ